พวงหรีดวัดหัวลำโพง

วัดหัวลำโพงหรือวัดวัวลำพองตั้งอยู่ริมถนนสี่พระยา ย่านบางรัก ไม่ปรากฏชัดเจนว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างมาตั้งแต่สมัยใด แต่จากการสันนิษฐานน่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัย รัชกาล ที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 3 เนื่องจากการสำรวจพระอุโบสถหลังเก่า ในปี พ.ศ. 2310 มีชาวบ้านหลบหนีสงครามพม่า มาตั้งถิ่นฐานที่ทุ่งวัวลำพองและเห็นว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ดินนี้จึงได้สร้างวัดขึ้น และได้ตั้งชื่อว่าวัดวัวลำพองให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านแถวนั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เดินทางไปทำพิธีเปิดสถานีรถไฟหัวลำโพงนั้นได้ไปทอดผ้าพระกฐิน ถึง 3วัด ในวันเดียวกัน คือวันสามจีน (วัดไตรมิตรวิทยาราม) วัดตะเคียน (วัดมหาพฤฒาราม) และได้เดินทางมาที่วัดวัวลำพองจึงได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า วัดหัวลำโพงตามชื่อสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดประมาณ 2กิโลเมตร จึงได้ชื่อว่าวัดหัวลำโพงตั้งแต่นั้นจนมาถึงปัจจุบัน
พระอุโบสถภายในวัดหัวลำโพงมีพระประธาน พระพุทธรูปปรางค์มารวิชัย นามว่า พระพุทธมงคล ประดิษฐานอยู่ด้านใน เชื่อว่าถ้าใครได้เข้ามากราบไหว้จะเป็นสิริมงคลปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายไปจากชีวิต การงาน การเงิน คล่องตัว นอกจากจะได้เข้าไปไหว้พระในโบสถ์แล้ว หน้าวัดยังมีให้ไถ่ชีวิตโค-กระบือ รวมทั้งสามารถบริจาคอาหารให้น้องวัวอีกด้วย แต่ที่เป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาทำบุญมากที่สุดก็เป็นที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่ให้ทำบุญบริจาคโรงศพให้กับศพไร้ญาติ ที่เชื่อว่าอนิสงค์แรงมาก ราคาโรงศพอยู่ที่ 500บาท หรือถ้าใครไม่สะดวกบริจาคทั้งโรงก็สามารถบริจาคตามกำลังศรัทธาได้ มูลนิธิเปิดให้ทำบุญตลอด 24ชั่วโมง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะส่วนมากผู้คนจะนิยมมาช่วงค่ำหรือช่วงที่เลิกงานนั่นเอง
สถานีหัวลำโพงเป็นสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิคโบราณกรีก-โรมัน สไตล์อิตาเลียนผสมผสานกับศิลปะของเยอรมันรวมทั้งได้รับวัสดุก่อสร้างมากจากเยอรมันอีกด้วยมีจุดเด่นคือช่องกระจกระบายอากาศมีสีสันสวยงามมาก และมีนาฬิกาติดอยู่ที่หน้าห้องโถง เป็นนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นพิเศษ สามารถทำให้ผู้คนที่แวะเวียนผ่านไป มาแถวนั้นมองเห็นได้ชัดเจน สถานีหัวลำโพงสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2456 สมัยรัชกาลที่ 6 ทำให้สถานีหัวลำโพงเป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าและเก่าแก่มีความสำคัญที่อยู่คู่คนไทยมานับตั้งแต่นั้นมา